นายวิมุติ บันทึกการเดินทางของนายวิมุติ โลกสีเขียว หลาน สหายลาดกระบัง

แชงกรีลา ย่าติง ลี่เจียง

17-26 ตุลาคม 2557



มิ้นสะสมเล็บมาสิบกว่าวันเพื่อที่จะมาตัดบนย่าติง






หิวจนเป็นลม


เราจะไม่ลืมลานบ้านแห่งนี้ 




ไม่ใช่รังแคนะ


อันนี่น่าจะใช่


จู่ ๆ ฝูงนี้ก็เดินมาตามถนน ก่อนที่จะแตกตื่นตกใจนักท่องเที่ยวคนนึ่งที่เข้าไปถ่ายรูประยะประชิดด้วยกล้องโทรศัพท์ 


รถบัสพาเรามาถึงปากทางเข้าอุทยาน เห็นโชเฟอร์นั่งรออยู่ก่อนแล้ว จากนั้นก็นั่งรถเดินทางต่อ แต่ตอนนี้หิวแล้ว แวะรื่อหว่ากินข้าวกลางวันก็แล้วกัน



มาแวะกินอาหารเที่ยงที่รื่อหว่า


งานสั่งอาหาร ต้องปล่อยเซง






แม้อาหารของร้านรสชาติดีอยู่แล้ว แต่น้ำพริกจากไทยก็ยังคงเป็นของคู่โต๊ะเราแทบทุกมื้อ


โชเฟอร์มาหยุดที่ข้างวัดจี๋หลิน เพื่อไปชำระค่าธรรมเนียมหรือทำบุญอะไรสักอย่าง แค่ไม่กี่สตางค์ ฟังอธิบายก็ไม่ค่อยเข้าใจ 


มิ้นได้ที่นั่งพิเศษ


รถออกมาจากย่าติงได้ไม่นาน รถก็จอดอีกครั้งตรงทางแยกทางซ้ายไปไหนก็ไม่รู้ โชเฟอร์บอกว่าขอขับเข้าไปเอาของในโน้นแป๊บนึง แล้วให้เราลงรถรออยู่ตรงนี้ รถอีกคันหนึ่งก็จอดรอกัน บอกไปแค่ห้านาที แต่เอาเข้าจริงมันหายไปร่วม ๆ ครึ่งชั่วโมง ปล่อยให้เรายืนหนาวอยู่ตั้งนาน







รอโชเฟอร์นาน จึงออกมาเดินเล่นลำธารข้างทาง


ช่วงใกล้ถึงเต้าเฉิงเราสังเกตเห็นว่าต้นไม้สองข้างทางโรยทิ้งใบเสียมากแล้ว ไม่ได้เหลืองสวยเหมือนอย่างที่เคยเห็น ประกอบกับอากาศตอนนี้หนาวมาก คงออกมาปั่นจักรยานชมทุ่งไม่ไหวแน่ จึงตกลงกันว่างดก็แล้วกัน บอกโชเฟอร์ว่าให้แวะที่หงเฉาทันสักหน่อย หงเฉาทันคือดงหญ้าแดง เป็นบึงน้ำริมทางที่มีหญ้าสีแดงสวยขึ้นอยู่เต็ม เป็นจุดท่องเที่ยวที่มีชื่ออีกแห่งของเต้าเฉิง อยู่ห่างจากเต้าเฉิงราวสิบกิโล ช่วงขามาจากจงเตี้ยนเราก็ผ่านมาทีนึงแล้ว ดูสวยดี นักท่องเที่ยวเพียบ







หงเฉาทันวันนี้นักท่องเที่ยวไม่มาก สาเหตุก็พอจะเข้าใจได้ เพราะวันนี้หญ้าแดงเฉาเสียทั้งทุ่งแล้ว แสงแดดก็ไม่มีเพราะลับเขาไปแล้ว เราจึงได้ชมเพียงทุ่งหญ้าสีเลือดหมูเหี่ยว ๆ แทน

หงเฉาทัน (红草滩) เฉาเสียแล้ว












เรากลับมาถึงเต้าเฉิงตอนเย็น เข้าพักที่โฮสเทลเดิม แต่ได้ห้องชั้นสาม ตั๋วรถเต้าเฉิง-จงเตี้ยนที่ฝากเจ้าของโฮสเทลจองไว้ก็ได้แล้ว รถออกหกโมงเช้า เย็นนี้เราไม่ไปกินข้าวข้างนอก เพราะเสบียงเหลือจากย่าติงมีเยอะ ต้องสะสาง จึงซัดมาม่ากันในห้อง 





กลางดึกผมสะดุ้งตื่นเพราะมีเสียงโป้งป้างดังสนั่นมาจากในกลางเมือง นึกว่ามีสงครามกลางเมือง พอเปิดประตูออกไปจึงพบว่าในเมืองเขาจุดพลุฉลองอะไรก็ไม่รู้ เข้าไปหยิบกล้องเล็กมาถ่าย แต่เนื่องจากห่างเหินกล้องเล็กมานาน จึงจำไม่ได้ว่าตั้งโหมดถ่ายพลุยังไง ประกอบกับงัวเงีย จึงถ่ายไม่ได้เรื่อง คนอื่นไม่เห็นมีใครเปิดประตูออกมาดูเลย

งัวเงียขึ้นมาถ่าย ได้แค่นี้


ระยะทางและมุมไต่เฉลี่ยของเส้นทางหลักสามเส้นในย่าติง


เผยแพร่ : 16 พ.ย. 64 แก้ไขครั้งล่าสุด : 28 พ.ย. 65