ย่าติง แชงกรีลา ลี่เจียง 12-21 ตุลาคม 2554
ยอดเขาเสี่ยนไหน่ยื่อ ตัวแทนพระโพธิสัตว์สามองค์ เป็นภูเขาศักดิ์สิทธิ์ของชาวทิเบต ถ่ายจากโรงแรม
แผนที่ย่าติง
โรงแรมที่เราพัก หน้าต่างที่สองจากขวาอยู่ตรงหัวนอนผมพอดี
หลังจากจัดการมื้อเช้า
ซึ่งก็คือบะหมี่อย่างเคย ก็เช็คเอาต์ออกจากโรงแรมแล้วก็เริ่มออกเดินตั้งแต่ย่าติงชุนเลย ไม่ต้องนั่งรถ มาเช้านี้ผมเพิ่งรู้ว่า ฮันส์กับจื้อชิงเปลี่ยนใจอยากจะไปทะเลสาบอีกแล้ว จึงเดินล่วงหน้าไปก่อนเลย เอ้า อยากไปก็ไป กลับมาให้ทันนัดละกัน เรานัดจื้อชิงว่าให้มาเจอกันที่ท่าปล่อยรถกอล์ฟบริเวณทุ่งชงกู่ตอนสามโมงเย็น
แม้ตอนเดินขึ้นเขา มิ้นก็ยังไม่หยุดกิน
ถึงแล้ว ทุ่งลั่วหรง
เต็มยศในชุดผู้ก่อการร้าย บ้าจนพี่ชายไม่กล้าเข้าใกล้
ทุ่งลั่วหรงกว้างใหญ่ไพศาล ลงจากท่ารถกอล์ฟมาก็มีทางเดินให้แยกสองทางซ้ายขวา คนส่วนใหญ่ไปทางซ้าย เพราะเป็นจุดชมภูเขาหิมะที่สวยงาม ส่วนทางขวาเป็นทางเดินยาวเหยียดตัดผ่านทุ่งหญ้าและลำธาร มีอะไรเด็ด ๆ ให้ดูหรือเปล่าก็ไม่รู้ ผมตัดสินใจเดินทางขวานี้แหละ ส่วนมิ้นกับคุ้งเลี้ยวซ้าย แยกเดินไม่เป็นไร ยังไงเดี๋ยวก็กลับมาเจอกันตรงท่าขึ้นรถกอล์ฟอยู่ดี
ท้องฟ้าวันนี้ฟ้ามีเมฆประมาณ 60 เปอร์เซ็นต์ มีแดดบ้างเล็กน้อย แต่ตรงยอดเขาหิมะ ซึ่งเป็นมุมยอดนิยมของตากล้อง ดันมีเมฆบังแน่นหนา 160 เปอร์เซ็นต์ ไม่บอกก็ไม่รู้ว่าตรงนั้นมีภูเขาหิมะ เซ็งเลยครับ ไม่รู้เดินดูไปเรื่อย ๆ จะดีขึ้นหรือเปล่า ตอนนี้หิมะเริ่มตกแล้วด้วย ลางร้ายจริง ๆ
เมฆบังยอดเขาจนหมด มองไม่เห็นยอด













เส้นทางที่ผมเดินมานี่คนน้อยมาก ผมเดินมาราว ๆ 2-3 กิโล เจอนักท่องเที่ยวแค่ราว ๆ สิบคนเท่านั้น ต่างจากอีกเส้นทางนึงซึ่งมีคนเป็นร้อย เดินคนเดียวก็ดีไปอีกแบบ เงียบสงบ ไม่ต้องรอใคร ไม่ต้องตามใคร
และคงเป็นเพราะคนน้อย เลยทำให้ผมได้เห็นนกชนิดหนึ่งที่อยากเห็นมานาน ตั้งแต่ตอนเริ่มเดิน ผมดูลักษณะพื้นที่และบรรยากาศแล้ว เกิดนึกขึ้นมาว่า พื้นที่อย่างนี้น่าจะมีนกมุดน้ำนะเนี่ย เดินฝันหวานผ่านไปได้ไม่นาน ช่วงหนึ่งที่ข้ามสะพานเตี้ย ๆ นกมุดน้ำก็โผล่มาให้เห็นจริง ๆ ราวกับนิมิต นกสีน้ำตาลเข้มเกือบดำตัวเท่ากำปั้น หน้าอกสีขาว หัวและท้ายทอยสีน้ำตาล ร่างกลมปุ๊กลุก กำลังยืนอยู่บนก้อนหินกลางลำธาร ห่างออกไปราว ๆ 10 เมตร สักพักก็กระโจนลงน้ำดังจ๋อม แล้วก็ผุดขึ้นมายืนที่ก้อนหินอีกก้อนนึง แล้วก็ทำแบบเดิมอีกสองสามครั้ง ผมตื่นเต้นจนมือไม้อ่อน มันไม่ใช่ใกล้สูญพันธุ์อะไรหรอก แต่มันหาดูได้ยากมากในเมืองไทย และที่น่าสนใจก็คือพฤติกรรมหากินที่แปลกประหลาดของมัน วันนี้ได้เห็นทั้งตัวและลีลาการหากินใต้น้ำอย่างเต็มตา เป็นบุญตาจริง ๆ
ภาพนี้ลงทุนสูงมาก เพราะต้องถอดรองเท้าข้างนึงเพื่อไปเหยียบในน้ำที่เย็นเฉียบ ถ่ายเสร็จตีนชาไปหมด
ผมเดินมาได้ไกลเท่าไหร่ไม่รู้ ยกนาฬิกาขึ้นมาดูก็พบว่ามันปาเข้าไปเกือบบ่ายสองแล้ว นี่เหลือเวลาอีกเพียงชั่วโมงเศษ ๆ เท่านั้น ยังไม่ได้เดินเที่ยวทางกราบซ้ายเลย ผมหลังหันกลับทันที ขากลับก็เจอจื้อชิงกับฮันส์เดินสวนมา ถามไถ่ดูก็รู้ว่าจื้อชิงกลับมาจากทะเลสาบแล้ว บ๊ะ ไปถึงทะเลสาบเลยหรือนี่ เดินเก่งไม่ใช่เล่น ผมมุ่งหน้าต่อไปที่ท่าขึ้นรถกอล์ฟ ส่วนจื้อชิงกับฮันส์ต้องเดินเท้าไปที่ชงกู่ เพราะไม่มีตั๋วรถ
เนื่องจากเวลาจำกัด ผมมีเวลาเดินเที่ยวทางกราบซ้ายเพียงครึ่งชั่วโมงเท่านั้น ยังเหลืออีกหลายมุมที่ไม่ได้เดิน จำต้องกลับก่อนด้วยความเสียดาย ไม่งั้นไม่ทันนัด
เดินกลับไปขึ้นรถกอล์ฟ
เผยแพร่ : 28 พ.ย. 65 แก้ไขครั้งล่าสุด : 1 ธ.ค. 66