สวัสดี..
ยินดีต้อนรับสู่ naiwimut.org เว็บเพจส่วนตัวของนายวิมุติ วสะหลาย อย่างเป็นทางการ
ปฐมวัย และ การศึกษา
ผมเกิดปี 2513 ที่กรุงเทพฯ แต่ถือว่าเป็นคนระยองเพราะเติบโตและใช้ชีวิตในวัยเยาว์ที่ระยอง บ้านของผมอยู่ในตลาดกลางตัวเมือง ผมเรียนชั้นประถมที่โรงเรียนกวงฮั้ว หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า กวงฮั้วหักเหา เป็นโรงเรียนจีน พอจบ ป.6 ก็เข้าเรียนที่โรงเรียนระยองวิทยาคม ซึ่งเป็นโรงเรียนประจำจังหวัดระยอง หลังจากจบ ม.3 ก็เข้าเรียนช่างอิเล็กทรอนิกส์ที่วิทยาลัยเทคนิคระยอง หลังจากนั้นก็กลายเป็นเด็กกรุงเทพฯ เสียหลายปี เพราะเข้าเรียนต่อที่สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือในสาขาอิเล็กทรอนิกส์อีกเหมือนกัน พอจบ ปวส. ก็ไปเรียนต่อที่สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ในสาขาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์
งานการ
หลังจากจบปริญญาตรีแล้วก็ทำงาน ไม่เรียนต่ออีกเพราะท้อแท้จากการสอบโทเฟล ผมทำงานแรกที่ บ. ดาต้าแมท จำกัด ทำงานเป็นโปรแกรมเมอร์ไร้สาระอยู่ 2 ปีจนทำให้บริษัทที่เคยรุ่งเรืองเริ่มลำบาก ผมจึงออกมาเป็นโปรแกรมเมอร์อิสระ พร้อมกับเขียนหนังสือด้วย ดูไปน่าจะรวย แต่ก็ไม่รวย ถึงแม้หนังสือจะติดอันดับขายดี แต่ก็ทำให้สำนักพิมพ์เขาต้องเกือบล้มละลาย หลังจากนั้นจึงเปลี่ยนไปยึดอาชีพค้าขายซึ่งเป็นธุรกิจครอบครัว ผมจึงกลายเป็นพ่อค้าจำเป็นนับแต่บัดนั้น แต่ก็ไม่วายมีคนเข้ามาว่าจ้างเขียนโปรแกรมอยู่เนือง ๆ นอกจากนี้ก็ยังเขียนหนังสือ เขียนบทความ งานเขียนส่วนใหญ่เป็นเรื่องดาว เรื่องสัตว์ป่า ในขณะเดียวกันก็ยังมีโฮมเพจที่รับผิดชอบอีกหลายแห่ง
งานอดิเรก และ เรื่องโปรด
ผมมีความสนใจหลายอย่างหลายแนว ผมชอบวิทยาศาสตร์แทบทุกสาขา ในสมัยเป็นเด็ก ผมฝันอยากจะเป็นนักวิทยาศาสตร์ สาขาที่ชอบที่สุดเห็นจะเป็นสัตววิทยาและดาราศาสตร์ ผมออกไปดูดาว ดูสัตว์ ดูนกอยู่บ่อย ๆ ผมเริ่มหัดดูดาวก่อนที่ดาวหางฮัลเลย์จะเข้ามาไม่นาน
ราวปี 2520 ตอนนั้นผมอยู่ ป.1 ในห้องเรียน ผมชอบอ่านหนังสือวิชาวิทยาศาสตร์ ซึ่งเป็นวิชาที่ครูแทบไม่เคยสอน อ่านทุกหน้า ซ้ำแล้วซ้ำเล่า อ่านเรื่องเสือโคร่ง ก็ชอบเสือโคร่ง อ่านเรื่องมด ก็ชอบมด อ่านเรื่องดาวหางฮัลเลย์ ก็ชอบดาวหางฮัลเลย์ ชอบดาราศาสตร์ ชอบวิทยาศาสตร์ ผมประทับใจในเรื่องดาวหางฮัลเลย์มาก ตั้งอกตั้งใจเป็นมั่นเหมาะว่าถ้ามันมาอีกเมื่อไหร่จะต้องดูให้ได้ นั่นคือความทรงจำแรกสุดเท่าที่นึกได้ที่เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ หลังจากนั้นอีก 10 ปี ดาวหางฮัลเลย์ก็มาเยือนโลก ผมทำกล้องดูดาวขนาด 40 เท่าขึ้นมากล้องหนึ่งแล้วเริ่มหัดดูดาวช่วงนั้น ผมตั้งชื่อว่า 'โคโดโมะ' ต่อมาภายหลังก็เพิ่มเป็น 80 เท่า ผมเอาไว้ส่องดูวงแหวนดาวเสาร์ หลุมดวงจันทร์ จุดบนดวงอาทิตย์ และอย่างอื่นอีกสารพัด กลายเป็นคนบ้าดาวตั้งแต่บัดนั้น
การท่องเที่ยวที่ผมไปบ่อยกว่าก็คือเที่ยวดูนก ผมเป็นสมาชิกสมาคมอนุรักษ์นกและธรรมชาติแห่งประเทศไทย, และชมรมเบิร์ดไลฟ์ เป็นอาสาสมัครให้บ้าง เป็นวิทยากรให้บ้างตามแต่โอกาสอำนวย นอกจากดูนกแล้วก็ถ่ายรูปนกด้วย มีรูปอยู่มากพอสมควร นกโปรดของผมคือนกกางเขนบ้าน นกธรรมดาที่พบได้ทั่วไปแม้แต่ในเมือง ชอบตรงที่เสียงร้องมันกวนดี ช่วงเวลาที่ประทับใจที่สุดก็คือตอนที่เห็นนกชนหินร่อนผ่านหุบเขายามเย็น เมื่อครั้งไปดูนกกับสหายร่วมอุดมการณ์ที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าฮาลาบาลา จังหวัดนราธิวาส ในปี 2540
จะว่าไปแล้วผมชอบสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมมากกว่านก แต่เมื่อเข้าป่าจะเน้นดูนกมากกว่า เพราะเห็นง่ายกว่า ผมเพิ่งเริ่มชอบและดูนกเมื่อราวปี 2535 นี้เอง ส่วนสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมนั้นชอบมาตั้งแต่เด็กแล้ว โดยเฉพาะสัตว์ผู้ล่าอย่างแมว เสือ หมา ไปสวนสัตว์คราวใดก็ชอบไปเฝ้ากรงเสือ เฝ้าได้เป็นชั่วโมงไม่รู้เบื่อ เคยเกือบถูกเสือดาวตะปบหน้าแหกตอนไปเฝ้ากรงมันที่สวนสัตว์ของสวนศรีเมือง จังหวัดระยอง ผมชอบเสือมากถึงขนาดอุทิศเสี้ยวหนึ่งของชีวิตวัยหนุ่มให้เพจ 'เสือและแมว นักล่าผู้งามสง่า' ผมตั้งใจไว้ว่าจะต้องเขียนเรื่องยาวนี้ให้จบทั้ง 38 ตอนให้ได้ก่อนตาย หากเพจนี้เสร็จแล้วยังไม่ยอมตาย ก็คงจะเริ่มเขียนเรื่องอื่น เช่น กวาง หมา นก ฯลฯ ต่อไป
ผมชอบกีฬาหลายอย่าง แต่ที่ชอบมากคือมวยกับกรีฑา มีความประทับใจจากนักกีฬาดังหลายคน ตอนอยู่ ป.3 เห็นมาดโม้ของมูฮัมหมัด อาลี จึงเริ่มชอบมวย ตอนอยู่ ม.2 ดูถ่ายทอดโอลิมปิกแอลเอหลายรายการ รายการที่ติดตาเป็นพิเศษคือกรีฑา เห็นเขากระโดดสูงก็ชอบ เห็นเขาทุ่มน้ำหนักก็ชอบ และเป็นครั้งแรกที่ได้เห็นว่าวิ่งมาราธอนเขาวิ่งกันยังไง ประทับใจกับท่าวิ่งที่แสนสง่างามของ คาร์ลอส โลเปส ตอนวิ่งเข้าเส้นชัย จึงฝันเฟื่องว่าอยากจะเป็นแบบนั้นบ้าง ความจริงน่าเรียกว่าเพ้อฝันมากกว่า เพราะได้แต่ฝันเลื่อนลอยไปวัน ๆ ฝันจะเป็นนักมวยแชมป์โลกบ้างหละ เป็นนักวิ่งระดับโลกบ้างหละ แต่ไม่ได้ทำอะไรที่เป็นการตะกายฝันเลย
ผมจำไม่ได้ว่าปีไหน คาดว่าน่าจะอยู่ในช่วงที่เรียน ปวช. ปีหนึ่งที่ผมได้เห็นหนังสือ 'วิ่ง สู่ชีวิตใหม่' ที่เขียนโดย นพ.อุดมศิลป์ ศรีแสงนาม จึงซื้อมาอ่าน เกิดความรู้สึกอยากวิ่งขึ้นมาแล้ว แต่กว่าจะเริ่มลงมือวิ่งจริง ๆ ก็อีกสองปีให้หลัง แม้จะออกมาวิ่งโดยมีจุดเริ่มต้นจากความกลัวตาย แต่ก็ยังไม่วายฝันถึงเหรียญทองโอลิมปิก วิ่งไปฝันไป โดยมีท่าวิ่งของ คาร์ลอส โลเปส อยู่ในมโนภาพตลอดเวลา ฝันว่าสักวันจะวิ่งมาราธอนให้ได้ ผมวิ่งมาราธอนได้เป็นครั้งแรกในขอนแก่นมาราธอนปี 2549 ตอนนี้กลายเป็นคนบ้าวิ่งไปแล้ว
บางคนว่าผมติดดนตรี ผมก็คิดว่าอย่างนั้น ผมฟังดนตรีหลายประเภท ทั้งดนตรีคลาสสิก เพลงฝรั่งยุค 70 ลูกทุ่ง ลูกกรุง เพื่อชีวิต เพลงพื้นบ้าน ป๊อป หรือเพลงร่วมสมัย ผมซื้อซีดีเพลงไว้เป็นเข่ง เป็นดนตรีคลาสสิกเสียเกือบทั้งหมด ช่วงหลังสตางค์เหลือน้อยจึงเป็น MP3 เสียมาก ถึงจะฟังเยอะแต่ร้องไม่เป็นเลย ได้แต่เก็บเนื้อร้องที่ชอบ ผมมีเครื่องดนตรีหลายชิ้น แต่ยังเล่นดนตรีไม่เป็นเลยสักชิ้น มีไวโอลินอยู่คันหนึ่งที่รักมาก ลูบคลำและเช็ดถูมันมากว่ายี่สิบปีแล้วก็ยังเล่นไม่เป็น คงมีสักวันหนึ่งละครับที่ผมจะสีเป็นทำนองได้ คงมีสักวัน
เขียนถึงนายวิมุติ
wimut@naiwimut.org
หรือ
55/3 ซอย ลาดพร้าว 94 ถ.ลาดพร้าว แขวงวังทองหลาง เขตวังทองหลาง กรุงเทพฯ 10310
หรือ
40 ศูนย์การค้าสาย 2 ถ.สุขุมวิท ต.ท่าประดู่ อ.เมือง จ.ระยอง 21000
Webmaster login